×
New!

Bayan Al Islam Encyclopedia Mobile Application

Get it now!

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

อิสลามคือศาสนาของพระเจ้าแห่งสากลโลก

ใครคือพระเจ้าของเจ้า?

คำถามนี้เป็นคำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ และเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ต้องรู้คำตอบของมัน

พระเจ้าของเราคือ ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ทรงประทานฝนลงมาจากฟากฟ้า และทรงทำให้พืชผลและต้นไม้ต่างๆ ได้งอกเงยออกมาด้วยมัน ( ด้วยน้ำ) เพื่อเป็นอาหารสำหรับเรา และสัตว์ทั้งหลายที่เราบริโภคมันเป็นอาหารพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างเรา ทรงสร้างบรรพบุรุษของเรา และทรงสร้างทุกสิ่ง และทรงทำให้มีกลางวันและกลางคืน ทรงทำให้กลางคืนเป็นเวลาสำหรับนอนหลับและพักผ่อน และทรงทำให้กลางวันเป็นเวลาสำหรับแสวงหาอาหารและปัจจัยยังชีพพระองค์คือผู้ทรงประทานดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว และท้องทะเลแก่เรา และพระองค์ทรงประทานสัตว์ต่างๆ ให้เราได้บริโภคมัน และได้รับประโยชน์จากนมและขนของมัน

อะไรคือคุณลักษณะของพระเจ้าแห่งสากลโลก?

พระเจ้าคือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง พระองค์คือผู้ประทานแนวทางที่เป็นสัจธรรมและถูกต้องแก่พวกเขา พระองค์คือผู้ทรงจัดการทุกสิ่งที่พระองค์สร้าง พระองค์คือผู้ทรงประทานปัจจัยยังชีพ พระองค์ทรงเป็นเจ้าของสำหรับทุกสิ่งทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระองค์ และทุกสิ่งทุกอย่างอื่นจากพระองค์นั้นล้วนเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์พระองค์คือพระผู้ทรงมีชีวิต ไม่ตาย และไม่นอน พระองค์ทรงเป็นผู้ค้ำจุนทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ความเมตตาของพระองค์นั้นครอบคลุมทุกสิ่ง และพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากพระองค์ไปได้ไม่ว่าในแผ่นดินและในฟากฟ้าไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนกับพระองค์ และพระองค์ทรงได้ยิน ทรงมองเห็น และพระองค์ทรงอยู่เหนือทุกสิ่งที่พระองค์สร้าง ทรงมั่งมีเหนือทุกสิ่ง ไม่พึ่งสิ่งที่ถูกสร้าง และทุกสิ่งที่พระองค์สร้างเหล่านั้นต่างต้องการพึ่งพระองค์ พระองค์ไม่ทรงเข้าสิงในสิ่งที่ถูกสร้าง และทุกสิ่งที่ถูกสร้างก็ไม่เข้าสิงในพระองค์พระเจ้าคือ ผู้ทรงสร้างแผ่นดินนี้ด้วยระบบต่างๆ ที่สมดุลและไม่เคยล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นระบบร่างกายมนุษย์และสัตว์ หรือระบบจักรวาลที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงดาว และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นองค์ประกอบแห่งจักรวาล

และทุกสิ่งที่ถูกเคารพสักการะอื่นจากพระองค์นั้นไม่สามารถสร้างประโยชน์ใดๆ และอันตรายใดๆ แก่ตัวมันเอง แล้วมันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เคารพสักการะมัน หรือขจัดอันตรายให้พ้นจากพวกเขาได้อย่างไร?

อะไรคือสิทธิของพระเจ้าที่เราต้องทำ?

แท้จริงสิทธิของพระองค์ที่มนุษย์ทุกคนต้องทำนั้น คือการเคารพสักการะพระองค์เพียงผู้เดียว และไม่ตั้งสิ่งใดๆ เป็นภาคีกับพระองค์ ดังนั้น พวกเขาจะไม่สักการะต่อสิ่งใดอื่นจากพระองค์หรือร่วมกับพระองค์ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นมนุษย์ หิน แม่น้ำ วัตถุ ดวงดาว หรือสิ่งอื่นใด แต่พวกเขาจะทำการสักการะด้วยความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์เพียงผู้เดียวพระเจ้าแห่งสากลโลก

อะไรคือสิทธิของมนุษย์ที่จะได้รับจากอัลลอฮ์?

แท้จริง สิทธิของมนุษย์ที่จะได้รับจากอัลลอฮ์หากพวกเขาสักการะพระองค์ คือพระองค์จะให้พวกเขามีชีวิตที่ดี ซึ่งพวกเขาจะพบกับความปลอดภัย ความมั่นคง ความสันติสุข ความสงบ และความพึงพอใจ ส่วนในวันอาคิเราะฮ์ พระองค์จะให้พวกเขาได้เข้าสวรรค์ ซึ่งในนั้นเต็มไปด้วยความสุขและการมีชีวิตที่นิรันดร์ และหากพวกเขาไม่เชื่อฟังและสวนทางกับพระบัญชาของพระองค์ พระองค์ก็จะทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นทุกข์ และน่าสังเวช แม้ว่าพวกเขาคิดว่าพวกเขามีความสุข ความสบายใจก็ตาม และในวันอาคิเราะฮ์ พระองค์ก็จะทรงให้พวกเขาตกอยู่ในนรก พวกเขาจะไม่สามารถออกจากที่นั่นได้ และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษและการมีชีวิตในนั้นชั่วนิรันดร์

อะไรคือจุดประสงค์ของการมีเรา? และเราถูกสร้างขึ้นมาทำไม?

แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบอกเราว่า พระองค์ทรงสร้างเราเพื่อจุดประสงค์อันสูงส่ง มันคือเพื่อให้เราทำการเคารพสักการะพระองค์เพียงผู้เดียว และไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และพระองค์ทรงมอบหมายให้เราสร้างแผ่นดินนี้ให้เต็มไปด้วยความดีงามและการพัฒนา ดังนั้นใครก็ตามที่สักการะต่อสิ่งอื่นจากพระเจ้าของเขาผู้ทรงสร้างเขา แสดงว่าเขาไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่เขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร และไม่ปฏิบัติในสิ่งที่เขาควรทำต่อผู้ทรงสร้างเขา และใครก็ตามที่ก่อความหายนะบนหน้าแผ่นดินนี้ แสดงว่าเขาไม่รู้หน้าที่ที่เขาต้องปฏิบ้ติ

เราจะทำการเคารพสักการะต่อพระเจ้าของเราอย่างไร?

แท้จริงอัลลอฮ์ ตะอาลา ไม่ทรงสร้างเราแล้วปล่อยเราอย่างไม่มีเป้าหมาย และไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราสูญเปล่า แต่พระองค์ทรงเลือกในหมู่มนุษย์นั้นผู้เป็นศาสนทูตไปยังประชาชาติของพวกเขา ซึ่งพวกเขาคือมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุดในศีลธรรม บริสุทธิ์ที่สุดในด้านจิตวิญญาณและจิตใจ พระองค์ทรงประทานสาสน์ของพระองค์ให้พวกเขาและทรงรวมทุกสิ่งที่มนุษย์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับพระเจ้า

ผู้ทรงสูงส่ง และเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพของมนุษย์ในวันอวสาน ซึ่งเป็นวันพิพากษาและการตอบแทนบรรดาศาสนทูตได้ทำการถ่ายทอดแก่ประชาชาติของเขาถึงวิธีการสักการะพระเจ้าของพวกเขา และอธิบายให้พวกเขาทราบถึงขั้นตอน เวลาของการสักการะ และผลตอบแทนทั้งในโลกนี้และวันอาคิเราะฮ์ บรรดาศาสนทูตได้ทำการตักเตือนประชาชาติของพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าของพวกเขาทรงห้าม ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม และการแต่งงาน และแนะนำพวกเขาให้มีศีลธรรมอันดีงาม และห้ามจากมารยาทที่ไม่ดีต่างๆ

ศาสนาอะไร เป็นศาสนาที่พระเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง ทรงตอบรับ?

ศาสนาที่อัลลอฮ์ทรงตอบรับ คือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่บรรดาศาสนทูตทุกท่านทำการเผยแพร่ และอัลลอฮ์ไม่ทรงตอบรับศาสนาใดในวันกิยามะฮ์ นอกจากศาสนาอิสลามเท่านั้น และศาสนาใดก็ตามที่มนุษย์นับถือกันอื่นจากศาสนาอิสลาม ถือเป็นศาสนาที่ปลอม ไม่สามารถให้ประโยชน์แก่ผู้ที่นับถือมัน แต่จะเป็นโทษสำหรับผู้นั้นทั้งในโลกนี้และในวันอาคิเราะฮ์

อะไรคือหลักของศาสนาอิสลาม และอะไรคือรากฐานของมัน?

ศาสนานี้เป็นศาสนาที่อัลลอฮ์ทรงทำให้ง่ายสำหรับผู้เป็นบ่าวของพระองค์ หลักการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาสนานี้คือการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ทั้งด้านการเป็นพระผู้อภิบาลและการเป็นพระเจ้าที่ควรได้รับการเคารพสักการะ ศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์ ศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ ศรัทธาต่อบรรดาศาสนทูตของพระองค์ ศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์ และศรัทธาต่อกฎกำหนดสภาวการณ์ จากนั้น ท่านกล่าวคำปฏิญาณว่า "อัชฮะดุ อัลลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะอัชฮะดุ อันนา มุฮัมมะดัรเราะซูลุลลอฮ์" (ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรแก่การเคารพสักการะอย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ และฉันขอปฏิญาณตนว่า มูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์) การดำรงไว้ซึ่งละหมาด จ่ายซะกาตหากท่านมีทรัพย์ที่จำเป็นต้องจ่ายซะกาต ถือศีลอดเดือนเราะมะฎอน เป็นจำนวนเวลาหนึ่งเดือนในหนึ่งปี และทำฮัจญ์เพื่ออัลลอฮ์ที่กะบะฮ์ ซึ่งเป็นบ้านที่ศาสนทูตอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม สร้างขึ้นมาตามคำสั่งของอัลลอฮ์ หากท่านมีความสามารถและท่านต้องออกห่างจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงห้าม เช่น การตั้งภาคีกับพระองค์ การฆ่าตัวตาย การผิดประเวณี และการใช้ทรัพย์ที่ต้องห้าม ฉะนั้นเมื่อท่านได้ศรัทธาในอัลลอฮ์ ได้ประกอบพิธีกรรมเหล่านี้ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ถูกห้ามทั้งหลาย ท่านก็เป็นมุสลิมแล้วในโลกนี้ และในวันฟื้นคืนชีพ อัลลอฮ์ก็จะประทานความสุขที่นิรันดร์และการมีชีวิตในสวรรค์ที่ตลอดไป

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสำหรับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้นหรือไม่?

อิสลามเป็นศาสนาของอัลลอฮ์ สำหรับมนุษยชาติทุกคน ไม่มีใครเหนือกว่าใครนอกจากด้วยความยำเกรงและการทำความดีเท่านั้น และมนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในศาสนานี้

มนุษย์จะรู้ถีงความสัจจริงของบรรดาศาสนทูต อะลัยฮิมุศเศาะลาตุวัสสลาม ได้อย่างไร?

มนุษย์จะรู้ถึงความสัจจริงของบรรดาศาสนทูตด้วยหลายวิธี ส่วนหนึ่งคือ

สิ่งที่พวกเขานำมาที่เป็นสัจธรรมและความถูกต้องนั้น เป็นสิ่งได้รับการยอมรับโดยสติปัญญาและสัญชาตญาณที่บริสุทธิ์ และสติปัญญาเป็นพยานถึงความดีของมัน และไม่มีใครอื่นนอกจากบรรดาศาสนทูตเท่านั้น ที่จะนำมาซึ่งสิ่งที่เหมือนกับสิ่งที่พวกเขานำมา

สิ่งที่บรรศาสนทูตนำมานั้น ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงศาสนาของมนุษย์และวิถีชีวิตในทางโลกของพวกเขาไปในทางที่ดีขึ้น และมีความซื่อสัตย์ในกิจการต่างๆ สร้างความเจริญ และปกป้องรักษาศาสนาต่างๆ ของพวกเขา รักษาสติปัญญา ความมั่งคั่ง และเกียรติยศของพวกเขา

บรรดาศาสนทูต อะลัยฮิมุสสลาม พวกเขาจะไม่ขอสิ่งตอบแทนจากมนุษย์ในการชี้นำพวกเขาไปสู่ความดีและความถูกต้อง แต่พวกเขาจะรอคอยรางวัลการตอบแทนจากพระเจ้าของพวกเขา

สิ่งที่บรรดาศาสนทูตนำมานั้นเป็นความจริงและชัดเจน จะไม่ปะปนกับข้อสงสัยใดๆ ไม่ขัดแย้งกันหรือสับสนกัน และศาสนทูตทุกคนจะยืนยันถึงความสัจจริงของบรรดาศาสนทูตที่มาก่อนหน้าเขา และจะทำการเรียกร้องสู่สิ่งเดียวกันกับที่บรรดาศาสนทูตเหล่านั้นเรียกร้อง

แท้จริงอัลลอฮ์ จะทรงสนับสนุนบรรดาศาสนทูตของพระองค์ อะลัยฮิมุสสลาม ด้วยโองการต่างๆ ที่ชัดแจ้งและปาฏิหาริย์อันน่าอัศจรรย์ที่อัลลอฮ์ทรงทำให้เกิดขึ้นในมือของพวกเขา เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ถึงความจริงว่าพวกเขาถูกส่งมาจากอัลลอฮ์อย่างแท้จริง และปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบรรดาศาสนทูตนั้นคือ ปาฏิหาริย์ของท่านศาสนทูต มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ผู้เป็นศาสนทูตท่านสุดท้าย และปาฎิหารย์ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือ อัลกุรอาน

คัมภีร์อัลกุรอานคืออะไร?

อัลกุรอาน คือคัมภีร์ของพระเจ้าแห่งสากลโลก เป็นพระดำรัสของอัลลอฮ์ที่นำลงมาโดยมลาอิกะฮ์ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ให้แก่ศาสนทูตมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และในคัมภีร์นั้นประกอบด้วยทุกสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติไว้สำหรับมนุษย์ที่จำเป็นต้องรู้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับอัลลอฮ์ มลาอิกะฮ์ คัมภีร์ บรรดาศาสนทูต วันอาคิเราะฮ์ และเกี่ยวกับกฎกำหนดสภาวการณ์ทั้งดีและไม่ดีและในคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับการสักการะที่เป็นภาคบังคับ และสิ่งต้องห้ามต่างๆ ที่จำเป็นต้องหลีกห่าง มีเรื่องมารยาทอันดีงามและน่าตำหนิ และมีทุกสิ่งที่เกี่ยวกับศาสนาของมนุษย์ เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาในโลกนี้และชีวิตหลังความตาย เป็นคัมภีร์อัศจรรย์ที่อัลลอฮ์ทรงท้าทายมนุษย์เพื่อนำมาซึ่งสิ่งที่เหมือนอัลกุรอาน เป็นคัมภีร์ที่ได้รับการรักษาจนถึงวันกิยามะฮ์ ด้วยภาษาอาหรับที่ถูกประทานลงมา โดยไม่ขาดตกแม้อักษรเดียว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่คำเดียว

อะไรคือหลักฐานของการฟื้นคืนชีพและการคิดบัญชี?

ท่านเคยเห็นแผ่นดินที่ตายและไม่มีการมีชีวิตอยู่ในนั้นเลยหรือไม่? แต่หลังจากฝนได้ตกลงมา มันก็จะสั่นไหวและทำให้ต้นไม้ต่างๆ งอกเงยออกมาสวยงาม แท้จริงผู้ที่ทำให้แผ่นดินนั้นมีชีวิตขึ้นมานั้น ทรงสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้แท้จริง พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์จากน้ำอสุจิ สามารถทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพอีกครั้งในวันอาคิเราะฮ์ สอบสวนพวกเขา และให้การตอบแทนพวกเขา หากทำดีก็ได้ดีและหากทำชั่วก็ได้ชั่วแท้จริง พระเจ้าผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน และดางดาวต่างๆ พระองค์ทรงสามารถทำให้มนุษย์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะการทำให้มนุษย์กลับมามีชีวิตอีกครั้งนั้น ง่ายกว่าการสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน

ในวันกิยามะฮ์มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

อัลลอฮ์ ผู้ทรงฤทธานุภาพ ทรงทำให้สิ่งมีชีวิตฟื้นคืนชีพจากหลุมศพของพวกเขา แล้วพระองค์จะทรงสอบสวนการกระทำของพวกเขา ดังนั้นใครก็ตามที่ศรัทธาและเชื่อฟังบรรดาศาสนทูต พระองค์ก็จะให้เขาได้อยู่ในสวรรค์ เป็นสถานที่แห่งความสุขชั่วนิรันดร์ ซึ่งไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่นั้นได้ และใครก็ตามที่ไม่ศรัทธา พระองค์ก็จะให้เขาตกนรกไป เป็นสถานที่แห่งความทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร์ที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ และหลังจากที่มนุษย์ได้เข้าสวรรค์หรือนรกแล้ว เขาจะไม่มีวันตายอีกต่อไป เพราะเขานั้นเป็นอมตะ เป็นนิรันดร์ในความสุขแห่งสวรรค์หรือความทุกข์ทรมานในนรก

หากมนุษย์มีความต้องการจะเข้ารับอิสลาม แล้วเขาต้องทำอะไร ต้องมีพิธีกรรมที่เขาต้องทำหรือมีใครต้องอนุญาตหรือไม่?

เมื่อมนุษย์รู้ว่าศาสนาที่แท้จริงคือศาสนาอิสลาม และเป็นศาสนาของพระเจ้าแห่งสากลโลก ดังนั้น เขาก็ควรเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามทันที เพราะคนที่มีสติปัญญาเมื่อรู้ความจริงแล้ว เขาจะต้องทำทันทีและไม่รอช้าและใครก็ตามที่ต้องการเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม ไม่จำเป็นต้องประกอบพิธีกรรมใดๆ และไม่จำเป็นต้องมีบุคคลในชุมชนร่วมด้วย แต่ถ้ามีมุสลิมเป็นสักขีพยานหรือที่ศูนย์อิสลามก็จะเป็นการดี แต่ถ้าไม่มี ก็เพียงพอสำหรับเขาด้วยการกล่าวว่า: "อัชฮะดุ อัลลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะอัชฮะดุ อันนา มุฮัมมะดัรเราะซูลุลลอฮ์" (ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรแก่การเคารพสักการะอย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ และฉันขอปฏิญาณตนว่า มูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์) ด้วยการรู้ถึงความหมายของมันและศรัทธา จากนั้นเขาก็กลายเป็นมุสลิมแล้ว จากนั้นเขาก็ศึกษาบทบัญญัติต่างๆ ของศาสนาอิสลามในแบบที่ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเขาจะได้ปฏิบัติในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้เขา

معلومات المادة باللغة العربية