×

إضاءة للدعاة إلى الله (تايلندي)

إعداد: มัสลัน มาหะมะ

الوصف

قطوف من كلمات تذكر الدعاة إلى الله بواجباتهم ومسؤولياتهم في الدعوة إلى الله، وبعض التوجيهات القيمة فيما يتعلق بأداء مهمة الدعوة إلى الله وسط التغيرات والتحديات المعاصرة

تنزيل الكتاب

    ข้อคิดสำหรับดาอีย์

    ﴿إضاءة للدعاة إلى الله﴾

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    มัสลัน มาหะมะ

    ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน

    2010 - 1431

    ﴿إضاءة للدعاة إلى الله﴾

    « باللغة التايلاندية »

    مزلان محمد

    مراجعة: صافي عثمان

    2010 - 1431

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    ข้อคิดสำหรับดาอีย์ (ผู้เผยแผ่อิสลาม)

    ประชาชาติมุสลิมในภาวะปัจจุบัน กำลังถูกรุมเร้าด้วยไวรัสร้ายที่อันตรายยิ่งและหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไวรัสดังกล่าวได้กัดกร่อนอัตลักษณ์ของความเป็นมุสลิมและทำลายวิถีชีวิตของประชาชาติ หรืออย่างน้อยได้ก่อให้เกิดภาวะขาดความสมดุลทางบุคลิกภาพของมุสลิมทั้งด้านความคิด ร่างกายและจิตวิญญาณ

    ซึ่งส่งผลให้มุสลิมกลับกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ซึมเศร้า ท้อแท้และสิ้นหวัง ชอบเลียนแบบอย่างไม่ลืมหูลืมตา มีพฤติกรรมบริโภคนิยม ไร้เดียงสา ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมืออยู่เป็นเนือง ไม่สู้งาน ไม่เห็นคุณค่าของเวลา พอใจและภูมิใจกับวัฒนธรรมแห่งความถดถอยและวังวนแห่งความล้าหลัง เว้นแต่ผู้ที่ได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น ที่จะรอดพ้นจากภยันตรายดังกล่าว

    ความสูญเสียซึ่งอัตลักษณ์หรือบุคลิกภาพของมุสลิมตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวข้างต้น นับเป็นหลุมดำที่สร้างความสูญเสียแก่ประชาชาติและสังคมมุสลิมอย่างใหญ่หลวง เพราะมันได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งที่สร้างรอยร้าวในสังคมที่ยืดเยื้ออย่างเป็นเวลายาวนาน สร้างความแตกแยกในสังคมทุกระดับชั้นไม่ว่าในระดับผู้นำหรือปุถุชน ทั้งในระดับนานาชาติหรือภูมิภาค หรือแม้แต่ในกลุ่มประชาชนทั่วไป ความขัดแย้งในลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประชาชาติละเลยและเมินเฉยต่อหน้าที่ความรับผิดชอบที่มุสลิมพึงปฏิบัติ ทำให้ผู้ไม่หวังดีมีความเข้มแข็งสามารถกวาดต้อนมุสลิมให้อยู่ในวงล้อมของพวกเขา และสุดท้าย ประชาชาติมุสลิมจะตกเป็นเบี้ยล่างและเป็นสำรับอันโอชะของนักล่าเหยื่อทั้งหลาย สังคมมุสลิมจึงยอมก้มหน้าก้มตาเชื่อฟังและศิโรราบต่อการชี้นำของผู้ไม่หวังดี แม้นว่าจะต้องฝืนเข้าไปในรูแย้ก็ตาม และพอใจที่จะรับความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลุมพรางเดิมโดยไม่หลาบจำ

    สถานการณ์ของประชาชาติขณะนี้ กำลังตกอยู่ในภาวะที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่ชะฮีดอับดุลกอดีร เอาดะฮฺ ซึ่งได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า "อิสลาม ท่ามกลางความเขลาของประชาชาติและความอ่อนแอของบรรดานักปราชญ์" กอปรกับบ่วงบาศอันที่สามที่กำลังคล้องคอประชาชาติมุสลิมปัจจุบัน นั่นคือแผนร้ายจากผู้ไม่หวังดี ที่จ้องทำลายล้างอิสลามและประชาชาติมุสลิม

    ดังนั้นประชาชาตินี้ โดยเฉพาะบรรดาดาอีย์(นักเผยแผ่อิสลาม)ทั้งหลาย จะต้องทำตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการและแยกตัวเป็นอิสระจากการตกเป็นผู้ตามทั้งปวง พร้อมกับทุ่มเทสรรพกำลังมุ่งมั่นทำงานเพื่อ

    1. ทวงคืนซึ่งเกียรติภูมิและความสูงส่งของประชาชาติอิสลามเพื่อเป็นหลักประกันซึ่งเกียรติแห่งชีวิตและศักดิ์ศรีบนโลกนี้ รวมทั้งความปลอดภัยในโลกอาคิเราะฮฺ อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาตรัสไว้ว่า

    ﴿مَنْ عَمِلَ صَالِحاً مِّن ذَكَرٍ أَوْ أُنثَى وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَلَنُحْيِيَنَّهُ حَيَاةً طَيِّبَةً وَلَنَجْزِيَنَّهُمْ أَجْرَهُم بِأَحْسَنِ مَا كَانُواْ يَعْمَلُونَ﴾ (النحل : 97 )

    ความว่า "บุคคลใดที่ปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี(ในโลกนี้) และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้" (อันนะห์ลฺ 97)

    2. ปกป้องและพิทักษ์รักษาประชาชาติที่สูญสิ้นซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเสรีภาพของความเป็นมนุษย์ เพราะทุกวันนี้ประชาชาติกำลังตกอยู่ในภาวะที่อ่อนแอและตกเป็นทาสของอารมณ์ใฝ่ต่ำ ขาดสติ คลุ้มคลั่ง ที่ไม่เพียงแต่จ้องทำร้ายผู้อื่นเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะทำลายชีวิตของตนเองอีกด้วย

    ไม่มีผู้ใดหรือประชาชาติใดที่จะมีศักยภาพพอในการปกปักษ์รักษาและคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่และศักดิ์ศรีของมวลมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ หรือจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮฺ นอกจากประชาชาติมุสลิม ตราบใดที่เขายึดมั่นในอิสลาม

    แนวทางหรือวิธีการก็คือ เขาจะต้องเริ่มต้นจากจุดที่เขาได้หยุดพักหรือหลับใหล ซึ่งจุดที่เขาได้หยุดพักก็คือจุดที่เกิดภาวะการทำลายบุคลิกภาพของความเป็นมุสลิมและทำลายศักดิ์ศรีเกียรติยศของความเป็นมนุษย์ผู้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเรามาเริ่มต้น ณ จุดนี้ เราจะต้องทุ่มเททำงานอย่างเข้มแข็งและมุ่งมั่นสู่การสร้างบุคลิกภาพมุสลิมที่เพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะที่ดีงาม ปลอดจากคุณลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ เหมาะสมและสมควรที่จะเป็นผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือและได้รับซึ่งชัยชนะจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ด้วยคุณลักษณะที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า

    ﴿قُلْ إِنَّ صَلاَتِي وَنُسُكِي وَمَحْيَايَ وَمَمَاتِي لِلهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ ، لاَ شَرِيكَ لَهُ وَبِذَلِكَ أُمِرْتُ وَأَنَاْ أَوَّلُ الْمُسْلِمِينَ﴾ (الأنعام : 162-163)

    ความว่า "จงกล่าวเถิด(มูฮำหมัด) ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮฺ(การเคารพภักดี)ของฉัน และการมีชีวิตและการตายของฉันนั้น เพื่อพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆ แก่พระองค์ และด้วยสิ่งนั้นแหละ ข้าพระองค์ถูกใช้ และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย” (อัล-อันอาม 162-163)

    การปลุกผู้คนจากการหลับใหล และเชิญชวนมวลมนุษย์ให้เดินทางบนเส้นทางอันเที่ยงตรง พร้อมกับประคับประคองไม่ให้ตกรางหรือพลัดหลงจากเป้าหมายที่แท้จริง นี่แหละ คือหน้าที่และภารกิจหลักของดาอีย์

    การเชิญชวนสู่อัลลอฮฺถือเป็นหน้าที่ของบรรดานบีและเราะซูล ซึ่งพวกเขาทั้งหลายล้วนแล้วเป็นบ่าวผู้ประเสริฐยิ่งของอัลลอฮฺ การเชิญชวนสู่อัลลอฮฺเป็นมรดกอันล้ำค่าของเราะซูลที่ได้รับการสืบทอดโดยบรรดาอุละมาอ์ร๊อบบานีย์(นักปราชญ์อิสลามผู้ทรงคุณธรรม) ถือเป็นภารกิจอันสูงส่งและทรงเกียรติยิ่งเป็นลำดับที่สองรองจาการศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ทั้งนี้เพราะผลของมันคือการชี้นำมนุษย์สู่อาทิตย์อุทัยแห่งสัจธรรม โน้มน้าวพวกเขาสู่ความดีงามและอารยธรรมอันสูงส่ง ฉุดรั้งให้หลุดพ้นจากความเท็จและจอมปลอม ชำระล้างจากคราบอวิชาสู่ความรู้แจ้ง ปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากพันธนาการของการเป็นทาสต่อมนุษย์ด้วยกันสู่การเป็นบ่าวของอัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลา สกัดกั้นมนุษย์ให้รอดพ้นจากความอธรรมของทฤษฎีอันจอมปลอมสู่ความยุติธรรมและสัจธรรมของอิสลาม และทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการครอบงำของโลกดุนยาที่แสนคับแคบ สู่ความยิ่งใหญ่ของโลกอาคิเราะฮฺ อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสไว้ว่า

    ﴿وَمَنْ أَحْسَنُ قَوْلاً مِّمَّن دَعَا إِلَى اللهِ وَعَمِلَ صَالِحاً وَقَالَ إِنَّنِي مِنَ الْمُسْلِمِينَ﴾ (فصلت : 33 )

    ความว่า "และผู้ใดเล่าจะมีคำพูดที่ดีเลิศไปกว่าผู้ที่เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ และเขาปฏิบัติการงานที่ดี และกล่าวว่า แท้จริงฉันเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ที่นอบน้อม" (ฟุศศิลัต 33)

    เพื่อให้ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ประสบความสำเร็จ บรรดาดาอีย์ทั้งหลายควรต้องตระเตรียมเสบียงซึ่งเพียบพร้อมด้วยสรรพกำลังที่มีคุณภาพและศักยภาพ สามารถเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายและอุปสรรคขวากหนามไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เป็นฝ่ายรุกหรือยามที่ตกเป็นฝ่ายรับ ซึ่งเสบียงดังกล่าวได้แก่

    เสบียงที่ 1 การศรัทธาที่เข้มแข็งและหัวใจที่ใสบริสุทธิ์(อิคลาศ) ปราศจากความย่อท้อและสิ้นหวัง

    เสบียงที่ 2 จรรยามารยาทที่งดงาม กิริยาวาจาที่นุ่มนวล และห่างไกลจากแนวคิดสุดโต่งในศาสนา ดังเช่นท่านมุอาซ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า "ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ได้เคยสั่งเสียแก่ฉันว่า "จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ จงพูดแต่ความจริง จงรักษาซึ่งสัญญา จงรับผิดชอบต่อหน้าที่ อย่าทำลายอะมานะฮฺ(ความรับผิดชอบ) จงให้เกียรติเพื่อนบ้านเรือนเคียง จงมอบความรักความเอ็นดูเด็กกำพร้า จงพูดจาไพเราะ จงเผยแผ่สลาม จงกระทำแต่ความดี ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย จงมีความศรัทธาที่มั่นคง จงพัฒนาและยกระดับความเข้าใจเนื้อหาในอัลกุรอาน จงใฝ่อาคิเราะฮฺ จงเกรงกลัวต่อการคิดคำนวณในวันอาคิเราะฮฺและจงอ่อนน้อมถ่อมตน จงอย่านินทาว่าร้ายผู้ที่มีความสามารถ อย่าใส่ร้ายป้ายสีคนดี อย่าเชื่อฟังคนพาล อย่าทำตนเป็นฝ่ายปฏิปักษ์ผู้นำที่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม อย่าสร้างความเสียหายบนพื้นแผ่นดิน จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺในทุกสภาวการณ์ จงขออภัยโทษกับความผิดที่ได้กระทำขึ้นทั้งในที่ลับและในที่แจ้งอย่างสม่ำเสมอ” (รายงานโดย อะบูนุอัยมฺ)

    เสบียงที่ 3 ความรู้ที่ครอบคลุม ปัญญาที่สุขุมลุ่มลึกและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลพร้อมกับประสบการณ์อันยาวนาน พึงตระหนักเถิดว่า การเชิญชวนผู้คน เป็นการบริจาคทานประการหนึ่ง ดังนั้นไม่มีผู้ใดที่สามารถบริจาคสิ่งของที่ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา หากว่ายน้ำไม่เป็นแล้ว อย่าอาจหาญไปช่วยคนที่กำลังจมน้ำ ผู้ศรัทธาจะไม่ถูกอสรพิษกัดจำนวน 2 ครั้งในรูเดียวกัน ผู้เรืองปัญญาคือผู้ที่นำประสบการณ์ของผู้อื่นมาเป็นบทเรียน ในขณะที่คนเขลาคือผู้ที่ประสบการณ์ของเขาเป็นแต่เพียงอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นเท่านั้น ผู้อัจฉริยะไม่ใช่คนที่สามารถเลือกระหว่างสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี แต่คนอัจฉริยะที่แท้จริงคือคนที่ฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดระหว่างสองสิ่งที่ดีงาม และแยกแยะสิ่งที่ชั่วร้ายกว่าระหว่างสองความชั่วร้าย

    เสบียงที่ 4 มีความวิริยะอุตสาหะและความตั้งใจที่สูงส่ง อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค มั่นคงในสัจธรรมดุจดังภูผา ละเอียดรอบคอบ ไม่รีบร้อนต่อผลสัมฤทธิ์ มอบหมายและขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺ อิมามอิบนุลก็อยยิมได้กล่าวว่า "พึงรู้เถิดว่า เส้นทางสายนี้คือเส้นทางที่นบีอาดัมเคยเดินผ่านด้วยความบากบั่นและเหนื่อยล้า นบีนูหฺเคยสัญจรด้วยเสียงร่ำไห้ที่โอดครวญกับความสูญเสียภรรยาและลูกสุดที่รัก นบีอิบรอฮีมถูกจับโยนในกองไฟที่กำลังลุกโชน นบีอิสมาอีลยอมพลีชีพเพื่อให้ถูกเชือดกุรบาน นบียูซุฟถูกขายด้วยราคาที่แสนถูกและถูกจับขังลืมเป็นนักโทษเป็นเวลาหลายปี นบีซะกะรียาถูกผ่าศรีษะด้วยเลื่อยอย่างสยดสยอง นบียะห์ยาถูกฆ่าตัดคออย่างน่าอนาถ นบีอัยยูบได้รับทรมานจากโรคร้ายอันแสนสาหัสเกินที่มนุษย์ทั่วไปจะทนได้ นบีดาวูดต้องสูญเสียน้ำตากับการร้องไห้ที่ยาวนาน นบีอีซาต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพียงลำพังโดดเดี่ยว ซึ่งสถานการณ์ความเลวร้ายและอุปสรรคต่างๆ ดังกล่าว นบีมูฮัมมัด(ขอความสันติสุขแด่ท่านและครอบครัว)ก็ลิ้มรสสัมผัสมาแทบทั้งสิ้น”

    เสบียงที่ 5 ยึดมั่นในการทำงานเป็นองค์กรหรือญะมาอะฮฺที่มีแนวทางถูกต้องและเที่ยงตรง มีผู้นำซึ่งเปี่ยมด้วยความรู้และประสบการณ์ จงยึดมั่นและเชื่อฟังในสิ่งที่เป็นสัจธรรม แท้จริงแล้วมารร้ายชัยฏอนเปรียบเสมือนสุนัขจิ้งจอกที่คอยซุ่มและรอโอกาสจู่โจมลูกแกะที่หลงฝูงเท่านั้น ฉะนั้นจงยึดมั่นในญะมาอะฮฺในทุกสภาวการณ์ เพราะความขุ่นมัวและความขัดแย้งในกลุ่มญะมาอะฮฺย่อมดีกว่าความเงียบสงบและใสสะอาดของความแตกแยก จงอย่าเดินบนซอยเปลี่ยวตามลำพัง ผู้ที่ทำตัวห่างไกลจากญะมาอะฮฺแม้เพียงแค่คืบเดียว แท้จริงแล้วเขาได้ปลดปล่อยอิสลามออกจากตัวเขาไปโดยปริยาย

    นอกจากนี้นักดาอีย์ทั้งหลายจำเป็นจะต้องมีคู่มือในการดำเนินกิจกรรมการเผยแผ่และเชิญชวนที่ชัดเจน สรุปได้ดังนี้

    1. ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีก่อนที่จะเชิญชวนผู้อื่น คำขวัญของเราคือ จงปรับปรุงตัวเองและจงชักชวนผู้อื่น

    2. สร้างความประทับใจและความผูกพันทางใจก่อนเป็นลำดับแรก พึงตระหนักเสมอว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงนั้นคือหัวใจแห่งการผูกมัดหัวใจมนุษย์

    3. สร้างความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะมอบหมายภาระหน้าที่ พึงตระหนักว่า ความเข้าใจต่ออุดมการณ์ จะนำมาซึ่งการผูกพันที่เข้มแข็งและมั่นคงในองค์กร

    4. ทำงานและดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นระบบและมีลำดับขั้นตอน ไม่เร่งรีบจนทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดอาการเบื่อหน่ายและเมินหนี

    5. ปรับเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย อย่าทำให้เกิดความยุ่งยากสลับซับซ้อน เพราะอิสลามไม่ส่งเสริมความสุดโต่งและความยุ่งยากสลับซับซ้อนทั้งปวง นบีมูฮัมมัด(ขอความสันติสุขแด่ท่านและครอบครัว) ชอบความเรียบง่ายตราบใดที่ไม่ใช่การกระทำที่เป็นบาปหรืออบายมุขทั้งปวง

    6. แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง โดยสร้างความเป็นน้ำหนึ่งในประเด็นที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกับพยายามแก้ไขและทำความเข้าใจในประเด็นข้อขัดแย้งอย่างเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

    7. เริ่มต้นด้วยการสร้างความความใกล้ชิดที่ประทับใจและเปี่ยมสุข อย่าเริ่มต้นด้วยการนำเสนอทุกอย่างที่เป็นสารัตถะของอิสลาม เพราะอาจทำให้ลูกค้าจะปฏิเสธทุกอย่างของอิสลามได้ จงสานเสวนากับกลุ่มเป้าหมายบนพื้นฐานที่เหมาะสมกับระดับความรู้และความคิดของเขา

    สังคมมุสลิมน่าจะถือโอกาสสะสางตนเองด้วยการลุกขึ้นปัดเป่าและเยียวยาไวรัสร้ายที่กำลังรุมเร้าอยู่ พร้อมๆ กับการบำบัดรักษาและพัฒนาสังคมสู่ความโปรดปรานแห่งอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา หาไม่แล้ว สังคมมุสลิมก็ยังอยู่ในวังวนแห่งการบูชาพิธีกรรมและเทศกาลโดยไม่สามารถซึมซับปรัชญาและนำบทเรียนของพิธีกรรมหรือเทศกาลดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิต เป็นเหตุให้สังคมต้องจมปลักในวัฎจักรแห่งความถดถอยอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย

    وصلى الله وسلم على نبينا محمد وعلى آله وصحبه أجمعين، سبحان ربك رب العزة عما يصفون وسلام على المرسلين والحمد لله رب العالمين.

    معلومات المادة باللغة الأصلية