الوصف
بيان ما يجب على المسلم في الاعتناء بالمسلمين الجدد والمؤلفة قلوبهم؛ لتثبيتهم على الإسلام بعد دخولهم في هذا الدين، اقتداءًا بمنهج الرسول صلى الله عليه وسلم في التعامل مع مَن أسلم على يديه عليه من الصحابة رضي الله عنهم.
หัวใจที่ใฝ่อิสลาม หัวใจที่ต้องได้รับการดูแล
] ไทย – Thai – تايلاندي [
บรรจง บินกาซัน
ผู้ตรวจทาน : ทีมงานภาษาไทย อิสลามเฮ้าส์
ที่มา : www.islam.in.th
2011 - 1432
﴿الاعتناء بالمؤلفة قلوبهم﴾
« باللغة التايلاندية »
بانجونج بن كاسن
مراجعة: فريق اللغة التايلاندية بموقع دار الإسلام
المصدر: www.islam.in.th
2011 - 1432
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
หัวใจที่ใฝ่อิสลาม หัวใจที่ต้องได้รับการดูแล
ตามคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด มนุษย์ทุกคนจะเกิดมาในสภาพบริสุทธิ์ดุจผ้าขาวและเป็นมุสลิมในทางด้านกายภาพมาตั้งแต่กำเนิด แต่การเป็นมุสลิมด้วยชีวิต ความคิดและจิตวิญญาณนั้น เริ่มต้นเมื่อมนุษย์ใช้สติปัญญาตรึกตรองถึงการมีอยู่ของพระเจ้าจนเกิดความเชื่อมั่นว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่คู่ควรแก่การก้มกราบ สักการะ การอธิษฐาน การวิงวอนขอพร และเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ทุกประการ
ดังนั้น การเป็นมุสลิมอย่าง แท้จริงจึงมิจำเป็นต้องเกิดมาในครอบครัวมุสลิมเสมอไป มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากมายที่หลายคนมิได้เกิดในครอบครัวมุสลิมแต่ได้ตายในอิสลาม ในขณะที่ลูกหลานของมุสลิมเองบางคนกลับมิได้ตายในอิสลามก็มี ดังนั้น การมีอคติหรือสงสัยคนต่างศาสนิกที่หันมารับอิสลามจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม
ประการแรก ก็เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เมื่อเกิดมาแล้วทุกคนสามารถที่จะเลือกดำเนินชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อมีใครได้มาศึกษาอิสลามเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คนที่มีอคติและแสดงท่าทีไม่ต้อนรับคนหล่านั้นควรถามใจตัวเองว่าท่าทีดัง กล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ?
คนที่มีใจโน้มมาสู่อิสลาม ถึงแม้ว่าจะยังไม่รับอิสลามคือผู้ที่อัลลอฮฺทรงให้ความสำคัญและสั่งให้มุสลิมให้เอาใจใส่ดูแลและคอยให้ความช่วยเหลือ จนถึงขนาดที่ว่าพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมซะกาตไว้สำหรับคนเหล่านี้ เพราะพระองค์ทรงรู้ดีว่าหากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว บ่าวที่พระองค์กำลังทรงนำทางมาสู่อิสลามอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือและมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตในหนทางของพระองค์
ประการที่สอง บุคคลสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์อย่างเช่น บรรดานบีและบรรดาสาวกของท่าน หรือแม้แต่ภรรยาบางคนของท่านนบีมุฮัมมัดเองก็มิได้เป็นมุสลิมมาแต่กำเนิด ดังที่กล่าวมาในตอนต้น การเป็นมุสลิมที่แท้จริงนั้นเริ่มต้นที่การรู้จักอัลลอฮฺและศรัทธาว่า พระองค์เป็นพระเจ้าที่แท้จริงแต่เพียงพระองค์เดียว สัญชาตญาณแห่งการแสวงหาและรู้จักพระเจ้าที่แท้จริงนั้น อัลลอฮฺได้ประทานแก่มนุษย์เป็นธรรมชาติติดตัวมาตั้งแต่มนุษย์คนแรกได้ถูกส่งมายังโลกนี้แล้ว หลักฐานที่ยืนยันถึงการมีอยู่ของอัลลอฮฺก็มีอยู่ดาษดารอบตัวมนุษย์ และแม้แต่ในตัวของเขาเอง
นบีอิบรอฮีม (อับราฮัม) อะลัยฮิสสลาม เกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นผู้ทำเทวรูปบูชาขาย แต่นบีอิบรอฮีมเห็นว่าการเคารพบูชาเทวรูปเป็นสิ่งงมงายมาตั้งแต่เด็ก และจากการใช้สติปัญญาตรึกตรองการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวต่างๆ ในท้องฟ้า นบีอิบรอฮีมก็สรุปได้ว่าพระเจ้าที่แท้จริงต้องมิใช่สิ่งที่ถูกสร้าง แต่ต้องเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งและผู้นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอัลลอฮฺ ด้วยความศรัทธาดังกล่าวอย่างมั่นคงแน่วแน่แม้ชีวิตจะต้องได้รับอันตรายก็ไม่คลายความศรัทธานั้น ทำให้อัลลอฮฺทรงเลือกสรรท่านเป็นนบีทำหน้าที่สอนมนุษย์ให้รู้ถึงความจริงดังกล่าว
สาวกของท่านนบีมุฮัมมัดก็มีหลายคนที่มิได้เกิดในครอบครัวมุสลิม เพราะคนหล่านั้นเลือกเกิดไม่ได้ เช่น บิลาลทาสผิวดำชาวอบิสสิเนีย(เอธิโอเปีย) และอัมมารฺ บิน ยาซิรฺ เป็นต้น บางคนก่อนมาเป็นมุสลิมเคยคิดสังหารท่านนบีก็มี เช่น อุมัรฺ หรือแม้แต่บางคนอย่างเช่น คอลิด บิน วะลีด ก็เคยเป็นแม่ทัพนำทหารสร้างความพ่ายแพ้ให้แก่มุสลิมมาแล้วในสงครามอุหุด แต่เมื่อคนหล่านั้นเข้ารับอิสลาม ท่านนบีได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและให้การฝึกอบรมขัดเกลาจนคนเหล่านี้ กลับกลายมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่อิสลามในตอนหลัง
ภรรยาของท่านนบีมุฮัมมัดบาง คน เช่น นางญุวัยรียะฮฺ บินติ หาริษ ก็เกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสลาม นางถูกจับเป็นเชลยในสงคราม แต่ท่านนบีได้ปล่อยตัวให้นางเป็นอิสระและได้แต่งงานกับนาง หลังจากแต่งงานแล้วด้วยความรัก ความอบอุ่นและการให้การศึกษาอย่างต่อเนื่อง นางญุวัยรียะฮฺก็ถูกจัดอยู่ในผู้ที่มีความรู้และมีความเคร่งครัดในศาสนาคนหนึ่ง
ผู้เขียนพูดถึงเรื่องดังกล่าวก็เพื่อต้องการจะบอกว่า ภารกิจสำคัญของนบีทุกคนคือการเชิญชวนมนุษยชาติให้รู้จักอัลลอฮฺและหันมาสู่อิสลามหรือยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระองค์ ถึงแม้สายโซ่แห่งการเป็นนบีจะสิ้นสุดลงในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด แต่ภารกิจการเชิญชวนมนุษยชาติสู่อิสลามหาได้ยุติลงไม่ ภารกิจนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้ศรัทธาในอัลลอฮฺทุกคน
ดังนั้น ถ้าหากมุสลิมคนใดเห็นคนต่างศาสนิกมีใจโน้มมาสู่อิสลาม ก็ให้รีบฉวยโอกาสทันทีด้วยการต้อนรับและแสดงความปรารถนาดีต่อคนเหล่านี้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าคิดว่าเราไม่มีความรู้พอและไม่สามารถที่จะทำหน้าที่เชิญชวนผู้คนมาสู่อิสลามได้ เพราะบ่อยครั้งไปที่ท่านนบีมุฮัมมัดไม่เคยสอนใครในเรื่องอิสลาม แต่ก็มีหลายคนเข้ารับอิสลามเพราะความประทับใจในจริยวัตรของท่าน หากใครไม่คิดที่จะฉวยโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ ก็อย่าจงทำบาปด้วยการแสดงกิริยามารยาทหรือใช้คำพูดแข็งกระด้างกับคนเหล่านี้ ซึ่งอัลลอฮฺกำลังนำทางเขามาสู่หนทางของพระองค์
ยิ่งคนที่เพิ่งหันมารับอิสลาม มุสลิมยิ่งต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะคนเหล่านี้ต้องแยกตัวออกมาจากครอบครัวเดิมของตนในทุกด้านของชีวิต จิตใจของคนเหล่านี้ย่อมต้องได้รับความบอบช้ำและความกระทบกระเทือน คนเหล่านี้ถ้ายังสามารถยืนหยัดความศรัทธาในอิสลามท่ามกลางความแตกต่างทางด้านความเชื่อในครอบครัวของตัวเองได้ ก็ถือว่าเป็นผู้มีความศรัทธาที่เข้มแข็ง และใครก็ตามที่ช่วยให้คนเหล่านี้ดำรงความศรัทธาในอิสลามได้จนถึงลมหายใจสุดท้าย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่ารางวัลตอบแทนของคนผู้นั้นมากมายยิ่งกว่าสมบัติ ใดๆ ทั้งหมดในโลกนี้
คัดมาจาก http://islam.in.th/node/163